เมื่อลูกหัดเดิน

เมื่อเด็กเข้าสู่ตอนปลายของขวบปีแรกหรือประมาณ 11 เดือน เด็กจะเริ่มพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายจากการที่เขาชอบนั่งหรือคลานไปสู่การเดิน เด็กจะชอบเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าเดิม ก็จะเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยติดตามลูกอย่างใกล้ชิดและคอยประคับประคองให้เขาก้าวเดินสู่โลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์

เมื่ออายุของลูกเข้าสู่ช่วงนี้ ลูกจะชอบปีนป่ายและเล่นทุกๆอย่างที่เขาเล่นได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยระมัดระวังดีๆ เพราะเขาจะชอบเล่นในสิ่งแปลกใหม่ที่เขายังไม่เคยรู้มาก่อน ที่สำคัญในช่วงนี้ลูกจะเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าเดิม

พัฒนาการเด่นๆที่เราจะได้เห็นตอนนี้คือ

  • สามารถเหยียดขาตรงและโหนยืนหรือก้มได้
  • เดินขึ้นบันไดได้
  • ยืนขึ้นได้เอง เมื่อนั่งยองๆ

จากพัฒนาการทีเห็นทำให้รู้ได้ว่าลูกพร้อมที่จะเล่นหรือเรียนรู้ในโลกใบใหญ่ได้แล้ว แต่ก็อาจจะมีเด็กบางส่วนที่ยังไม่พร้อมขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการของคุณพ่อคุณแม่ บ้านไหนที่ชอบอุ้มลูกบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้เด็กพัฒนาการช้าเนื่องจากปกติไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย บางบ้านชอบเอาสิ่งที่เขาต้องการมาส่งถึงมือ ทำให้เด็กไม่มีความจำเป็นในการขยับร่างกาย คุณพ่อคุณแม่ต้องปรับเปลี่ยนและส่งเสริมพัฒนาการของลูกด้วย

อีกส่วนหนึ่งคือความพร้อมของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็ก ว่าพร้อมที่จะทำให้เขายืนหรือเกาะเดินได้หรือไม่ เด็กบางคนอายุ 9 เดือนปลายๆ ก็สามารถเกาะเดินได้แล้ว แต่บางคนอาจจะช้าถึงย่างเข้า 1 ขวบเลยก็ได้ ที่สำคัญคือการส่งเสริมจากผู้เลี้ยงดู

Tip สำหรับช่วยส่งเสริมให้ลูกยืนและเดิน

  • หาสิ่งของให้เขายึด ผลักเดิน อาจจะเป็นเก้าอี้หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ล้มง่ายๆ ไม่ควรใช้เก้าอี้ที่มีล้อเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้
  • พาลูกเดินบ่อยๆ โดยจูงเดิน การทำแบบนี้บ่อยๆจะช่วยเสริมพัฒนาการของเด็กในส่วนของการบริหารกล้ามเนื้อ การฝึกการทรงตัว ไม่ทำให้เขาล้มง่าย โดยที่อาจจะจูงสองมือในช่วงแรกๆ เมื่อเขาถนัดแล้วก็ค่อยจูงมือเดียว
  • พาไปเดินในสวน การเดินในสวนทำให้เท้าของลูกสัมผัสพื้นผิวที่แตกต่างจากพื้นบ้าน เช่นพื้นหญ้า จะกระตุ้นทำให้เขาเรียนรู้ผิวสัมผัสแบบใหม่ๆ และพัฒนาการลงน้ำหนักในการก้าวเดือนได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือ กำลังใจจากคุณพ่อและคุณแม่ที่จะช่วยให้ลูกเดือนสู่โลกใบใหญ่ได้อย่างมั่นคง