เด็ก 5 เดือน พัฒนาการของลูกน้อยของคุณ

เด็ก 5 เดือน

หันตามเสียง
เด็ก 5 เดือนจะสามารถรับรู้ได้ว่าเสียงที่ได้ยินมาจากทิศทางไหนและเขาจะหันไปทางต้นกำเนิดเสียงได้อย่างว่องไว เราสามารถกระตุ้นการได้ยินของเขาอย่างง่ายๆด้วยการเขย่าพวกกุญแจ โมบาย กระดิ่งลมก็เป็นสิ่งของที่กระตุ้นความสนใจและฝึกทักษะการได้ยินของลูกน้อยได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
เด็กอายุ 5 เดือนอาจจะสามารถจำชื่อของตัวเองได้ เราอาจจะสังเกตเห็นเวลาเราเรียกชื่อเขา เขาจะหันหน้ามาทางเรา!

เด็กวัยนี้ถ้าเราต้องการกระตุ้นพัฒนาการเรียนรู้ สิ่งที่เราต้องทำคือคุยกับลูกน้อยของเรา ในวัยนี้เด็กไม่สามารถเรียนรู้ภาษาได้จากโทรทัศน์หรือวิทยุดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือบทสนทนาระหว่างเรากับเขานั่นเอง

พัฒนาการทางอารมณ์
ในวัยนี้ลูกน้อยของเราจะยังไม่สามารถแสดงอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมาได้ อารมณ์หลักๆที่แสดงออกมาให้เห็นได้ชัดคือ เมื่อเขาโกรธ เบื่อหรือสนุก และเขาเองก็กำลังพัฒนาความสามารถในการแสดงอารมณ์ขันหรือแสดงความรักเช่นกัน

เด็กจะแสดงความผูกพันกับเรามากขึ้นเช่นเขาจะยกแขนขึ้นเมื่อเขาอยากให้เราอุ้ม หรือร้องไห้เวลาเราไม่เห็นเรา เด็กบางคนจะหอมแก้มหรือกอดพ่อแม่ด้วย!

ช่วงเดือนนี้ลูกของคุณจะชอบหัวเราะและแสดงสีหน้าตลกๆ และเขาเองก็ชอบทำให้เราหัวเราะไปกับเขาด้วยเช่นกัน

ถือขวดนมเอง
เด็ก 5 เดือนจะเริ่มแข็งแรงพอที่จะถือขวดนมได้เอง เมื่อเขาทำได้เราสามารถปล่อยให้เขาถือขวดนมและกินนมเองแต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรปล่อยให้เขากินนมโดยลำพังเนื่องจากเขาอาจจะสำลักได้และถ้าลูกของเราหลับไปตอนที่ยังกินดูดนมจากขวดอยู่ จะทำให้นมค้างอยู่ในปากของเขาและน้ำตาลในนมอาจจะทำให้เขาฟันผุได้ นมที่เขาอมไว้อาจจะลงไปทางในช่องที่ติดระหว่างคอของเขากับหูชั้นกลางทำให้เกิดการติดเชื้อในหูได้

เดือนนี้เด็กอาจจะส่งสัญญาณว่าอยากกินข้าวเหมือนกับเราแล้ว แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรเริ่มให้เด็กกินอาหารอ่อนโดยที่ยังไม่ปรึกษาคุณหมอประจำตัวของเขาก่อนเพราะระบบย่อยอาหารของเขาอาจจะยังไม่พร้อมที่จะย่อยอาหารอ่อนได้ อีกอย่างหนึ่งถ้าให้อาหารอ่อนกับลูกเร็วเกินไปอาจจะทำให้เขามีอาการแพ้อาหารได้เช่นกัน เราควรใช้เวลารับประทานอาหารกับลูกของเราเนื่องจากเขาชอบดูเรากินข้าวและอาจจะทำให้เขาเจริญอาหารกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ

ลุกขึ้นนั่งได้เองแล้ว!
เด็ก 5 เดือนจะเริ่มลุกขึ้นมานั่งได้เองแล้วแต่จะตั้งตัวตรงได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เราควรคอยช่วยประคองใกล้ๆ

กลัวคนแปลกหน้า
เด็กวัยนี้อาจจะแสดงสัญญาณของพัฒนาการทางอารมณ์ที่เด่นๆอีกอย่างหนึ่งคือ กลัวคนแปลกหน้า พวกเขาอาจจะแสดงอาการหวาดกลัวหรือร้องไห้เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ใกล้ๆพวกเขา จำไว้ว่าเมื่อมีใครที่ลูกน้อยของเรายังไม่รู้จักมาอยู่ใกล้ๆ และเขาตกใจร้องไห้ ให้เรากอดเขาไว้และพยายามอย่าให้ใครที่ลูกน้อยของเรายังไม่รู้จักทำให้เขาตกใจ ค่อยๆเข้าหาเขาและค่อยๆทำความคุ้นเคย ในที่สุดเด็กก็จะไม่รู้สึกกลัว

ยังไงก็ตามการกลัวคนแปลกหน้าของเด็กวัยนี้ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กเจอคนที่เขายังไม่รู้จัก เขาจะได้เรียนรู้จากการเจอคนอื่นๆที่ไม่ใช่แค่คนในครอบครัวเท่านั้น เพียงแต่เราต้องมีความอดทน เข้าใจและช่วยให้มีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นได้อีก

นักสำรวจตัวน้อย
ในช่วงปลายของเดือนที่ 5 ลูกน้อยของเราจะเริ่มเป็นนักสำรวจ โดยใช้มือน้อยๆของเขา จับสิ่งเล็กๆที่อยู่ข้างหน้าได้ เราอาจจะช่วยฝึกฝนพัฒนาการของการหยิบจับโดยวางของเล่นให้เขาเอื้อมจับได้ ในเดือนต่อๆไป เขาจะหยิบจับของชิ้นใหญ่ได้และส่งต่อของที่จับไว้จากมือข้างนึงไปอีกข้างนึงได้

เริ่มพูดอ้อแอ้
ในช่วงปลายของเดือนที่ 5 เด็กจะเห็นและได้ยินสิ่งรอบๆตัว เกือบจะเหมือนกับผู้ใหญ่แล้ว ทักษะการสื่อสารของเขาก็พัฒนาขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จะสังเกตได้ว่า ลูกเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ โดยที่การส่งเสียงนี้เป็นการสื่อสารว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์ใด เช่นมีความสุขหรือกำลังพอใจ ในช่วงนี้เด็กจะออกเสียงซ้ำๆ เช่น บาๆๆ มาๆๆ แต่เด็กบางคนอาจจะออกเสียงได้มากกว่า 1 เสียง เราสามารถกระตุ้นโดยเลียนเสียงพูดอ้อแอ้กลับไปหาเขา หรืออาจจะตอบด้วยบทสนทนาสั้นๆเช่น “ใช่แล้วค่ะ มันคือตุ๊กตาหมี เห็นมั้ยว่ามันสีอะไร” เป็นต้น การกระตุ้นแบบนี้จะทำให้เด็กรู้สึกที่อยากพูดมากขึ้นเพราะเขาชอบเวลาที่เราฟังเข้าพูดและทำท่าทางเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อสารออกมาได้ ลองทำเป็นคุยกับเขาโดยที่ เราจะหยุดฟังสิ่งที่เขาพูดหลังจากนั้นก็ถามคำถามเขาและรอเขาตอบ แบบนี้ก็ได้

อย่างไรก็ตามเด็กทุกคนไม่เหมือนกันและอาจจะมีพัฒนาการที่ช้าเร็วต่างกัน ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่พัฒนาการของเด็กส่วนใหญ่ไม่จำเป็นว่าลูกของเราต้องทำได้ครบทุกอย่างตามนั้น โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เราต้องให้เวลาเขามากกว่าเด็กทั่วไป ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กควรสอบถามจากแพทย์ประจำตัวของเขาได้เลยค่ะ